คุณเคยได้ยินคำกล่าวว่า “ทำได้ทุกเรื่อง แต่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง” หรือเปล่า แม้ร้านค้าโดยทั่วไปแล้วจะให้บริการลูกค้าหลากหลายกลุ่ม แต่ธุรกิจเฉพาะกลุ่มต่างหากที่สามารถมอบบริการที่ดีขั้นสุดให้กับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มได้
การเข้าถึงตลาดเฉพาะกลุ่มมีข้อดีมากมาย ธุรกิจเฉพาะกลุ่มจะเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และสามารถสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าจะนึกถึงเป็นอันดับแรกในด้านที่แบรนด์นั้นเชี่ยวชาญ
การเลือกตลาดเฉพาะกลุ่มยังช่วยทำให้ธุรกิจของคุณมีความชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเสนอคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ การโฟกัสไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มจะช่วยให้คุณตัดสินใจอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้คุณเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าลูกค้าของคุณคือใคร และพวกเขากำลังมองหาอะไรอยู่
ถ้าคุณยังคิดไม่ตกสักทีเรื่องไอเดียสินค้าสำหรับธุรกิจของคุณ การหาตลาดเฉพาะกลุ่ม ให้เจอถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับตลาดเฉพาะกลุ่ม พร้อมพาไปส่อง 9 ตลาดเฉพาะกลุ่ม และบอกวิธีค้นหาสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงที่เกี่ยวข้องกับตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นๆ
สารบัญลัด
- ตลาดเฉพาะกลุ่มคืออะไร
- 9 ตัวอย่างตลาดเฉพาะกลุ่ม
- วิธีค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่ม
- วิธีประเมินไอเดียเรื่องตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณ
- ก้าวต่อไปกับกลยุทธ์การตลาดเฉพาะกลุ่ม
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตลาดเฉพาะกลุ่ม
ตลาดเฉพาะกลุ่มคืออะไร
ตลาดเฉพาะกลุ่มคือกลุ่มผู้บริโภคที่มีความสนใจเฉพาะทาง สมาชิกในกลุ่มนี้จะมีบุคลิกลักษณะ ความชอบ และความต้องการที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษเหมือนๆ กัน ซึ่งทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการบางชนิดเป็นพิเศษ ผู้บริโภคกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีความแตกต่างและมีนิยามอย่างชัดเจนภายในตลาดเป้าหมาย และมักเต็มใจจะจ่ายเงินซื้อโซลูชันที่ปรับแต่งมาให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของพวกเขา
ตัวอย่างเช่น ในตลาดรองเท้าผู้หญิง มีตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับรองเท้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองเท้ากายภาพบำบัด แล้วรองเท้าปีนเขา ตลาดเฉพาะกลุ่มเหล่านี้ตอบสนองความต้องการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งไม่สามารถใช้ได้กับตลาดทั่วไป
ตลาดเกือบทุกตลาดจะมีตลาดเฉพาะกลุ่ม การที่จะมองหาตลาดเฉพาะกลุ่มให้ได้นั้นต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างละเอียด วิธีทั่วๆ ไปในการนิยามตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นก็อย่างเช่นการมองหาปัจจัยดังต่อไปนี้
- ราคา (ลักชูรี, ปานกลาง, ส่วนลด)
- ประชากรศาสตร์ (เพศ, อายุ, ระดับรายได้, ระดับการศึกษา)
- คุณภาพผลิตภัณฑ์ (พรีเมียม, แฮนด์เมด, ประหยัด)
- จิตวิทยา (ค่านิยม, ความสนใจ, ทัศนคติ)
- ภูมิศาสตร์ (ประเทศ, เมือง, ย่านที่อยู่อาศัย)
การเลือกที่จะโฟกัสไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นเป็นการตัดสินใจในเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อที่จะให้บริการฐานลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ดีกว่าคู่แข่งที่มุ่งไปทำตลาดที่กว้างกว่า ส่วนธุรกิจที่ลงมาแข่งขันในตลาดเฉพาะกลุ่มก็อาจตัดสินใจที่จะเจาะความเฉพาะกลุ่มให้ลึกลงไปอีก เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของตัวเอง
ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้ากีฬาสำหรับผู้ชาย ในตลาดนี้ก็มีตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับอุปกรณ์การวิ่ง ธุรกิจที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการวิ่งก็สามารถเจาะลึกลงไปในความเฉพาะกลุ่มนั้นได้อีก เช่น อุปกรณ์วิ่งสำหรับนักวิ่งมาราธอน วิธีนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถให้บริการลูกค้าที่มองหาประเภทอุปกรณ์วิ่งเฉพาะทาง ที่อาจไม่มีในร้านขายอุปกรณ์การวิ่งอื่นๆ ได้
9 ตัวอย่างตลาดเฉพาะกลุ่ม
- ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- คนรักสุขภาพ
- เจ้าของสัตว์เลี้ยง
- คนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
- นักเดินทาง
- เกมเมอร์
- เจ้าของบ้านและผู้เช่า
- คนทำงานรีโมท
- คนในพื้นที่
1. ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ความยั่งยืนยังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้บริโภค ทุกๆ ปี ผลสำรวจจะแสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่ยินดีที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับบางคน นั่นหมายถึงการลงทุนในผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และสำหรับบางคนก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปซื้อสินค้ามือสองและสินค้ารีเซล
ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนอีกประเภทหนึ่งคือผลิตภัณฑ์ทั่วไปที่มอบทางเลือกในรูปแบบที่เป็นวีแกน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือไม่มีการทดลองกับสัตว์ ถ้ามีผลิตภัฑณ์อะไรที่ตลาดแมสชอบซื้อ ก็แปลว่าอาจจะมีกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและพร้อมที่จะซื้อตัวเลือกที่รักษ์โลกมากกว่า
ตัวอย่างเช่น Bee’s Wrap ซึ่งนำเสนอแผ่นห่ออาหารจากขี้ผึ้งเป็นทางเลือกแทนพลาสติก ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยให้ผู้บริโภคได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- เคสโทรศัพท์ที่ย่อยสลายได้
- สกินแคร์ที่ไม่มีการทดลองกับสัตว์
- เสื้อผ้ามือสองหรือเสื้อผ้าให้เช่า
- เครื่องครัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ถ้วยอนามัย
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- เน้นย้ำถึงประโยชน์ที่ผลิตภัณฑ์ของคุณมีต่อสิ่งแวดล้อม โดยระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์และในเนื้อหาการตลาด
- ทำแคมเปญร่วมกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม
- แชร์คำรับรองคุณภาพจากลูกค้า ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณช่วยให้พวกเขาประหยัดเงิน หรือช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร
- อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับความพยายามด้านความยั่งยืนของแบรนด์ของคุณอย่างสม่ำเสมอผ่านจดหมายข่าว
2. คนรักสุขภาพ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดคนรักสุขภาพทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 อุตสาหกรรมนี้คืออุตสาหกรรมแห่งการดูแลจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ ตลาดเฉพาะกลุ่มในหมวดนี้ก็มีทั้งเรื่องของการดูแลตัวเอง โภชนาการ โยคะ และการบำบัดทางเลือก ถ้าคุณเคยซื้อเค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง หรือมอยส์เจอไรเซอร์ออร์แกนิก ก็แปลว่าคุณเคยเป็นลูกค้าของตลาดคนรักสุขภาพแล้ว
หนึ่งในตลาดเฉพาะกลุ่มของคนรักสุขภาพที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คือแอปพลิเคชันการทำสมาธิ โดยแอปพลิเคชัน Headspace มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านครั้งต่อไตรมาส ส่วนอีกแอปที่คล้ายๆ กันอย่าง Calm ก็มีรายได้ไตรมาสละกว่า 20 ล้านดอลลาร์ จากการซื้อภายในแอป
ความสำเร็จของแอปที่มีชื่อเสียงระดับโลกนี้เอง ก็สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ในการค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลด้านสุขภาพ
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับคนรักสุขภาพ
- นมจากพืช
- อาหารเสริมเพื่อช่วยการนอนหลับ
- ชุดขนมสุขภาพแบบ DIY
- เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหย
- ชุดทำคอมบูฉะ
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับคนรักสุขภาพ
- เริ่มธุรกิจของคุณ โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
- ให้ความรู้กับผู้ใช้ ในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณผ่านบล็อก คลิปวิดีโอ หรือพอดแคสต์
- จัดชาเลนจ์ด้านสุขภาพเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย
3. เจ้าของสัตว์เลี้ยง
อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงไม่เพียงแต่ให้บริการผู้บริโภคที่หลากหมายมากๆ แต่ธุรกิจสัตว์เลี้ยงยังมุ่งเป้าไปที่ผู้คนในช่วงที่พวกเขามีกำลังซื้อสูงสุดด้วย
ตัวอย่างของธุรกิจเฉพาะกลุ่มในตลาดสัตว์เลี้ยงคือ Only Natural Pet ซึ่งเชี่ยวชาญด้านอาหารจากธรรมชาติ ยาป้องกันเห็บหมัด อุปกรณ์กันหนาว และของเล่น ผู้บริโภคที่สนใจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงจากธรรมชาติสามารถไปที่ร้านค้าออนไลน์ของแบรนด์ และเจอกับทุกอย่างที่ต้องการสำหรับสุนัขของพวกเขา
ในขณะที่สุนัขและแมวยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่สัตว์เลื้อยคลาน นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กก็มาพร้อมความต้องการเฉพาะตัวและโอกาสในการทำธุรกิจที่เล็งไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มเช่นกัน
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง
- กล้องอัจฉริยะสำหรับสัตว์เลี้ยง
- GPS ติดตามสัตว์เลี้ยง
- ผลิตภัณฑ์ที่ปรับแต่งได้สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง
- อาหารสัตว์ออร์แกนิกและเฉพาะทาง
- เสื้อผ้าสัตว์เลี้ยงแบรนด์ลักชูรี
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง
- คอลแล็บกับบัญชีสัตว์เลี้ยงดังๆ บน Instagram
- แชร์คำรับรองคุณภาพจากลูกค้าและภาพถ่ายสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ
- ทำคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพและสุขภาวะของสัตว์เลี้ยง
- จัดอีเวนต์หรือการแข่งขันที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
4. คนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
ตลาดสำหรับกิจกรรมพักผ่อนกลางแจ้งนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนต่างมองหาการออกไปพักพ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพใจท่ามธรรมชาติกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตลาดนี้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลาย ซึ่งแต่ละกิจกรรมแสดงมาพร้อมตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีศัยกภาพ
ตัวอย่างเช่น การดูนกได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮเทคต่างๆ เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองนักดูนกรุ่นใหม่ และในทำนองเดียวกัน เกษตรในเมืองก็กลายเป็นเทรนด์ตามเมืองใหญ่ๆ ทำให้มีดีมานด์ด้านเครื่องมือทำสวนและกระถางต้นไม้ที่ประหยัดพื้นที่
บริษัทหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการตอบสนองตลาดเฉพาะกลุ่มในตลาดกลางแจ้งคือ BioLite ซึ่งผลิตอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเตาปิกนิกที่เปลี่ยนไฟให้เป็นไฟฟ้า ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านแหล่งพลังงานยั่งยืนในหมู่คนรักการเดินป่าและกางเต๊นท์
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
- อุปกรณ์ปีนเขาน้ำหนักเบา
- ชุดอุปกรณ์ดูนกสำหรับมือใหม่
- เสื้อผ้ากันน้ำกันลม
- อุปกรณ์ตั้งแคมป์ในรถยนต์
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
- จัดการแข่งขันถ่ายภาพโดยให้ลูกค้าแชร์ภาพการผจญภัยกลางแจ้งของพวกเขา
- ร่วมมือกับองค์กรในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อจัดกิจกรรมหรือโครงการทำความสะอาด
- เขียนบล็อก “เส้นทางประจำเดือน” ที่พูดถึงเส้นทางเดินเขายอดนิยมใกล้ๆ กับที่ที่ลูกค้าของคุณอยู่
5. นักเดินทาง
หนึ่งในเทรนด์การเดินทางล่าสุดคือการเดินทางที่เน้นประสบการณ์ ที่นักเดินทางจะสนุกกับทริปที่แอ็กทีฟและได้ฟีลเต็มๆ มากกว่าการไปชะโงกทัวร์แบบดั้งเดิมหรือไปนอนในรีสอร์ท นอกจากนี้ การทำงานแบบรีโมทที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็นำไปสู่นักเดินทางสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งก็คือกลุ่มดิจิทัลโนแมด ที่สามารถทำงานพลางท่องโลกไปพร้อมๆ กันได้นั่นเอง
Nomatic เป็นแบรนด์กระเป๋าเดินทางที่มุ่งเน้นไปที่ตลาดดิจิทัลโนแมด ซึ่งให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพ ฟังก์ชันการใช้งาน และความเบาแบบไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋า ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้ว่าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของ Nomatic นั้นโฟกัสไปที่ลูกค้ากลุ่มนี้อย่างชัดเจนเลย ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ไปจนถึงข้อความโฆษณา
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับนักเดินทาง
- อุปกรณ์สมาร์ทโฟนสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ด้านการเดินทาง
- เสื้อผ้าอเนกประสงค์ที่ใส่สบายสำหรับการบินไฟลท์ยาวๆ
- แก๊ดเจ็ตสารพัดประโยชน์สำหรับใช้ระหว่างนั่งเครื่องบิน
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับผลิตภัณฑ์การเดินทาง
- สร้างคู่มือการเดินทางสำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมและจุดหมายที่ดิจิทัลโนแมดชื่นชอบ
- แชร์เรื่องราวการเดินทางจากผู้คนที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- ถ่ายคลิปโชว์ข้อดีของผลิตภัณฑ์ของคุณในสถานการณ์การเดินทางจริง
6. เกมเมอร์
เกมเมอร์คือคำที่ครอบคลุมกลุ่มย่อยต่างๆ ทั้งคนที่ชอบเล่นเกมมือถือ เกมคอนโซล และเกมเทเบิลท๊อป ทั่วโลกมีคอวิดีโอเกมกว่าสามพันล้านคนทั่วโลก และกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวนนี้ก็ใช้จ่ายไปกับงานอดิเรกชนิดนี้ จึงส่งผลให้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 211,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025
ในกลุ่มนี้ คุณสามารถมุ่งเป้าไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มโดยอิงจากแนวเกมดังๆ ได้เลย เช่น เกมยิงที่ใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง หรือเกมคอนโซลอย่าง Nintendo Switch เป็นต้น Shazim Mohammad เปิดร้านค้าออนไลน์ของเขาในชื่อ Glorious Gaming โดยขายผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเป้าไปยังคอเกมพีซีโดยเฉพาะ และกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้หลักร้อยล้านในแบบที่แทบจะไม่ต้องไปจัดการอะไรเองให้วุ่นวายเลย
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับเกมเมอร์
- คอนโทรลเลอร์และเก้าอี้ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ซึ่งเหมาะกับการนั่งเล่นเกมนานๆ
- สติ๊กเกอร์สำหรับตกแต่งคอนโซลและคอนโทรลเลอร์
- อุปกรณ์เสริมสำหรับคอเกมมือถือ
- สินค้าที่ได้ลิขสิทธิ์มาจากเกมหรือตัวละครยอดนิยม
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับเกมเมอร์
- จัดทัวร์นาเมนต์เกมทางออนไลน์ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณ
- พัฒนาระบบสะสมแต้มในรูปแบบเกมสำหรับลูกค้าของคุณ
- สนับสนุนอีเวนต์อีสปอร์ตหรืออีเวนต์เกม
- เปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือสินค้าจำกัดจำนวน โดยคอลแล็บกับเกมดังๆ
7. เจ้าของบ้านและผู้เช่า
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาปริ่มๆ อยู่ที่ประมาณ 2 ใน 3 ของจำนวนประชากร ทั้งยังมีปัญหาเรื่องราคาอสังหาริมทรัพย์เฟ้อ อุปทานที่มีจำกัด และค่าครองชีพที่สูงขึ้นจนทำให้คนหันไปเช่าบ้านแทนมากขึ้น
จำนวนผู้เช่าที่มากขึ้นนั้นแปลว่าจะต้องมีคนย้ายบ้านมากขึ้นด้วย และเมื่ออสังหาริมทรัพย์สำหรับให้เช่านั้นว่างลง หลายๆ ที่จึงต้องรีโนเวทใหม่ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เมื่อบ้านกลายเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ ตลาดเฉพาะกลุ่มที่เกิดขึ้นก็คืออุปกรณ์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ
ตัวอย่างเช่น August เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเจ้าของบ้าน โดยเป็นกลอนประตูบ้านแบบที่ไม่ต้องใช้กุญแจ ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์นั้นก็คือ การเข้าออกของแขก ที่เจ้าของบ้านจะเป็นคนอนุญาตให้ผู้เช่าเข้ามาในบ้านได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับเจ้าของบ้าน
- เฟอร์นิเจอร์ประหยัดพื้นที่สำหรับอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็ก
- โซลูชันที่เหมาะกับการเช่า เช่น ม่านที่ไม่ต้องเจาะและวอลล์เปเปอร์ที่ถอดออกได้
- อุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น เทอร์โมสแตท ไฟ และกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย
- ทางเลือกพลังงานแบบออฟกริด
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับเจ้าของบ้าน
- ทำคอนเทนต์ดีๆ เกี่ยวกับเคล็ดลับในการปรับปรุงบ้าน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณ
- ทำซีรีส์วิดีโอแนะนำวิธีการรีโนเวทอพาร์ตเมนต์โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ
8. คนทำงานรีโมท
การเปลี่ยนจากการทำงานแบบเข้าเช้าออกเย็นของออฟฟิศ มาเป็นการทำงานแบบยืดหยุ่นจากทางไกล ได้ทำให้กิจวัตรประจำวันของพนักงานหลายคนเปลี่ยนไป ประโยชน์ของการทำงานแบบไฮบริด หรือการทำงานแบบรีโทมเต็มรูปแบบก็คือความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้น โดยมีพนักงานจำนวนมากบอกว่าพวกเขาจะมองหางานใหม่ ถ้าจะไม่สามารถทำงานจากบ้านได้อีกต่อไป
สำหรับบริษัทต่างๆ การอนุญาตให้ทำงานแบบรีโมททำให้พวกเขามีพูลของผู้สมัครมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มความสามารถในการรักษาพนักงาน และลดค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินการ เช่น ค่าเช่าออฟฟิศ เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน การทำงานรีโมทก็มาพร้อมความท้าทายใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน พนักงานที่ทำงานออนไลน์ส่วนใหญ่รายงานว่า พวกเขารู้สึกหมดไฟเพิ่มขึ้นจากการใช้เครื่องมือการสื่อสารดิจิทัล และสนิทกับเพื่อนร่วมงานได้ยากขึ้นด้วย
เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายเหล่านี้ ผลิตภัณฑ์เฉพาะทางกลุ่มใหม่ก็ได้เกิดขึ้นมา เช่น Miro ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกระดานไวท์บอร์ดออนไลน์ ได้ช่วยให้ทีมที่นั่งทำงานกันคนละที่สามารถระดมสมอง วางแผน และทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ช่องว่างที่เกิดจากระยะห่างทางกายภาพนั้นแคบลง
การเข้าใจความท้าทายและความต้องการเฉพาะตัวของคนทำงานรีโมทสามารถนำไปสู่ไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การทำงานจากที่บ้านให้ดีขึ้นได้
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับคนทำงานรีโมท
- กิจกรรมหรือบริการสร้างความสนิทสนมในทีมแบบออนไลน์
- กล่องรวมผลิตภัณฑ์สำหรับโฮมออฟฟิศแบบชำระเงินล่วงหน้า
- การสัมมนาออนไลน์เกี่ยวกับทักษะต่างๆ ด้านการทำงานรีโมท
- แอปพลิเคชันด้านสุขภาพที่มุ่งเน้นการจัดการความเครียดและสุขภาพจิต
ไอเดียการตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับการทำงานจากระยะไกล
- สัมภาษณ์ผู้นำความคิดเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
- จัดเวิร์กช็อปออนไลน์เกี่ยวกับเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานรีโมท
- ร่วมมือกับแบรนด์และบริษัทที่มีการทำงานแบบรีโมท เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณ
9. คนในพื้นที่
ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคชอบธุรกิจท้องถิ่นขนาดเล็กมากกว่าร้านค้าขนาดใหญ่ แม้แต่แบรนด์ระดับโลกก็ยังนำกลยุทธ์ การตลาดสำหรับคนในพื้นที่มาใช้ผ่านแคมเปญที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับผู้ขายของออนไลน์ การสร้างชื่อในพื้นที่อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่สักหน่อย แต่ก็มีหลายวิธีที่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซจะสามารถประสบกความสำเร็จในการให้บริการคนพื้นที่เฉพาะกลุ่มได้ ไม่ว่าจะในระดับเมืองหรือระดับประเทศ
ยกตัวอย่างบริษัทเสื้อผ้า Peace Collective ที่ก่อตั้งในโตรอนโต บริษัทนี้เริ่มต้นจากการขายสินค้าทีม Toronto Blue Jays ในช่วงการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ จากนั้นแบรนด์ก็ได้ขยายบริการไปยังเมืองอื่นๆ โดยเน้นไปที่การขายสินค้าทีมกีฬาเป็นหลัก โดยได้ร่วมมือกับลีกกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น NFL, NBA และ MLB
ไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มสำหรับคนในพื้นที่
- อาหารและเครื่องดื่มที่มาจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น เช่น กาแฟจากโรงคั่วในพื้นที่
- ชุดทำงานฝีมือหรือศิลปะพื้นบ้านแบบ DIY
- หนังสือหรือแผนที่ของท้องถิ่น ที่เน้นไปที่สถานที่เจ๋งๆ ที่คนไม่ค่อยรู้จัก
- ชุดปลูกต้นไม้ที่มีพืชหรือเมล็ดพันธุ์ของท้องถิ่น
แนวคิดการตลาดสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มในท้องถิ่น
- จัดกิจกรรมหรือเวิร์กช็อปแบบป๊อปอัพในท้องถิ่นเพื่อสาธิตผลิตภัณฑ์ของคุณ
- คอลแล็บกับช่างฝีมือหรือเชฟในท้องถิ่นเพื่อผลิตสินค้าลิมิเต็ดเอดิชัน
- เปิดตัวแคมเปญ “รักท้องถิ่น” ที่มีเรื่องราวของลูกค้าในท้องถิ่นที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ
วิธีค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่ม
การเปิดร้านในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว อาจทำให้คุณต้องสู้ยิบตากับคู่แข่งที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ดังนั้นการค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มให้เจอจึงสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณตั้งแต่เริ่มต้นได้เลย
เมื่อคุณโฟกัสไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่ม คุณจะสามารถแข่งขันได้ ซึ่งในที่นี้ไม่ไ้ด้หมายความว่าคุณต้องขายสินค้าที่ไม่เหมือนใคร แต่หมายถึงคุณต้องมุ่งเน้นไปที่ส่วนของตลาดที่มีความเฉพาะเจาะจง
ถึงจะไม่มีวิธีค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มและโอกาสด้านผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วเวิร์กสำหรับทุกคน แต่ก็ถือว่ามีอยู่หลายวิธีที่เป็นที่นิยม และเราจะพาคุณทำความเข้าใจไปทีละขั้น โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจตลาดที่ใหญ่กว่า แล้วจึงมองหาตลาดเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ค่อยมีสินค้าและบริการมากนัก
1. เริ่มด้วยการค้นหาบน Google
วิธีที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการระดมความคิดเกี่ยวกับตลาดเฉพาะกลุ่มคือ การเข้าใจว่าผู้ค้าปลีกออนไลน์อื่นๆ กำลังขายอะไรในหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
การเริ่มต้นเลือกตลาดเฉพาะกลุ่มด้วยการค้นหาบน Google เป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อม ลองเริ่มจาก “เครื่องสำอางที่ไม่มีการทดสอบกับสัตว์” ดู จากนั้นคุณก็จะค้นพบหัวข้อน่าสนใจที่เจาะลึกลงไป อย่างเช่น “สกินแคร์แบบวีแกน” และ “ไม่เคยทดสอบกับสัตว์”
เมื่อคุณได้ลองผิดลองถูก คุณก็สามารถสำรวจเทรนด์ต่างๆ จนกว่าจะพบกลุ่มที่ไม่มียังไม่ค่อยมีสินค้าและบริการเพียงพอ หรือพบกับดีมานด์ในตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่คุณต้องไม่ลืมว่า แม้ว่าคู่แข่งจะมุ่งเป้าไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณ แต่คุณก็ยังสามารถแข่งขันได้โดยการเจาะลึกลงไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงกว่านั้นอีก หมายความว่าคุณต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญให้ได้ ไม่ใช่แค่เป็นอะไรธรรมดาๆ
2. คอนเฟิร์มว่าความสนใจนี้มีมานานแล้วด้วย Google Trends
ถ้าการค้นหาด้วย Google แบบทั่วไปๆ แสดงผลลัพธ์ที่น่าสนใจ ขั้นตอนถัดไปคือการนำคำค้นของคุณไปที่ Google Trends
เมื่อป้อนคำค้นของคุณลงไปใน Google Trends คุณจะสามารถดูความสนใจในการค้นหาคำนั้นตามช่วงเวลาต่างๆ ได้ และตอบได้ว่าตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นมีความสนใจที่มั่นคงมาเรื่อยๆ หรือกำลังโต หรือเป็นเพียงเทรนด์ชั่วคราว ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยคุณในการหลีกเลี่ยงการลงทุนในตลาดเฉพาะกลุ่มที่อาจไม่มีศักยภาพในระยะยาวได้
3. สร้างแนวคิดธุรกิจโดยการทำมายด์แม็ป
มายด์แม็ปเป็นวิธีที่ดีในการขบคิดว่า คุณจะเริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับด้านที่เฉพาะเจาะจงลงไปอีกในตลาดเฉพาะกลุ่มต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง และด้วยความที่มายด์แม็ปนั้นเป็นการจำลองวิธีคิดของสมอง วิธีนี้จึงเป็นวิธีจัดระเบียบความคิดและแตกยอดไอเดียต่างๆ ออกไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การวาดมายด์แม็ปสามารถช่วยให้คุณคิดไอเดียเกี่ยวกับสินค้าได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับกระตุ้นให้คุณสำรวจด้านต่างๆ ของตลาดเฉพาะกลุ่มด้วย คุณสามารถใช้เครื่องมือฟรีทางออนไลน์ เช่น Text2MindMap เพื่อสร้างมายด์แม็ปที่เรียบง่ายแต่ใช้การได้ดีได้เลย
4. ค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มย่อยผ่านคำแนะนำการค้นหาของ Google
เคยสังเกตไหมว่า เมื่อคุณเริ่มพิมพ์อะไรลงไปใน Google ระบบจะแสดงคำแนะนำขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติเลย
ข้อความเหล่านั้นคือคำค้นที่เกี่ยวข้องที่ได้รับการค้นหามากที่สุดจาก Google ซึ่งคุณสามารถนำมาใช้ค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มสำหรับหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ของคุณได้นะ
Google จะแสดงคำแนะนำเพียงไม่กี่คำ ดังนั้นคุณอาจต้องการใช้เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ดเพื่อรวบรวมคำค้นหาเพิ่มเติม
วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่าการค้นหาคีย์เวิร์ดแบบยาวที่มีความเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น คีย์เวิร์ดเหล่านี้มักประกอบด้วยชื่อตลาดที่ใหญ่กว่า (เช่น “เครื่องสำอางที่ไม่ทดสอบกับสัตว์”) ตามด้วยคำว่า “สำหรับ” ต่อด้วยตลาดเฉพาะกลุ่มที่เจาะจงลงไปอีก (เช่น “ผิวแพ้ง่าย”) วิธีนี้จะช่วยอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตลาดเฉพาะกลุ่มและหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่กว้างขึ้นนั่นเอง
ผู้ประกอบการมักใช้คีย์เวิร์ดแบบยาวนี้ในการประเมินความสนใจของลูกค้าและวิเคราะห์การแข่งขันในแขนงผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม
5. เจาะลึกด้วยการวิจัยคีย์เวิร์ด
วิธีการคล้ายกันในการค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มคือการใช้ Google Keyword Planner เครื่องมือนี้เป็นทรัพยากรจาก Google Ads ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาของ Google ตัว Google Keyword Planner นั้นจะคล้ายกับเครื่องมือคำแนะนำของ Google ที่กล่าวไปข้างต้น แต่สามารถแสดงข้อมูลการค้นหาในระดับที่สูงกว่าและปรับได้ตามต้องการ
ในการใช้เครื่องมือนี้ คุณจะต้องมีบัญชี Google Ads ก่อน จากนั้นลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณ และเลือกเครื่องมือจากเมนูด้านบน จากนั้นเลือก Keyword Planner
ให้คุณพิมพ์ไอเดียหลักสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มลงไปเพื่อดูผลการค้นหาเบื้องต้น คุณสามารถปรับการตั้งค่าตำแหน่งของคุณได้ที่ด้านซ้าย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังมุ่งเป้าไปยังพื้นที่ที่คุณต้องการเข้าถึง นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มตัวกรอง ลบคีย์เวิร์ดที่มีชื่อแบรนด์ และตรวจสอบคำแนะนำสำหรับคำอื่นๆ ที่ระบบแนะนำได้ด้วย
การไล่ดูผลการค้นหาคีย์เวิร์ดสามารถจุดประกายไอเดียดีๆ ให้กับคุณ ในเรื่องตลาดเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคำแรกที่คุณใช้เริ่มต้นค้นหาได้ แถมบางครั้งคุณอาจจะเจอดีมานด์สำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมบางชนิดด้วย ดังนั้นอย่ากลัวที่จะเจาะลึกลงไป และลองใช้คำที่เกี่ยวข้องกันหลายๆ คำดูเลย
ถ้าคุณไม่มีบัญชี Google Ads คุณสามารถใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์อย่าง Keywords Everywhere เพื่อดูปริมาณการค้นหาโดยตรงได้เลยจากใต้การค้นหาของคุณใน Google
อ่านเพิ่มเติม: วิธีค้นหาตลาดดรอปชิปเฉพาะกลุ่มที่สามารถทำกำไรให้ธุรกิจได้
วิธีประเมินไอเดียเรื่องตลาดเฉพาะกลุ่ม
การค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มที่น่าสนใจนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น คำถามถัดไปคือ ตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณมีพื้นที่สำหรับธุรกิจใหม่หรือไม่ การประเมินขนาดของกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของผู้บริโภค และความสามารถในการทำกำไรของตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นมีความสำคัญไม่แพ้กับไอเดียตั้งต้นเลยแหละ
คุณสามารถประเมินไอเดียใหม่เกี่ยวกับตลาดเฉพาะกลุ่มได้ดังนี้
ระวังการแข่งขันที่เป็นศูนย์
ตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีคู่แข่งน้อยอาจดูเหมือนโอกาสทอง อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าทำไมผู้ประกอบการคนอื่นถึงหลีกเลี่ยงตลาดนี้ อาจเป็นไปได้ว่า ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นมีไม่มากพอ หรือผลิตภัณฑ์มักมีปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการให้บริการช่วยเหลือลูกค้า เป็นต้น
ทดสอบตลาดก่อนที่จะกระโจนลงไป
คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการเลือ ผลิตภัณฑ์ดรอปชิปจำนวนน้อยๆ ก่อน และทำการตลาดแบบมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเป้าหมายที่คุณตั้งใจไว้ จากนั้นก็รวบรวมฟีดแบ็กของลูกค้ากลุ่มแรกๆ หรือส่งผลิตภัณฑ์บางตัวไปให้อินฟลูเอ็นเซอร์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของพวกเขา
ความคิดเห็นในช่วงแรกๆ โดยเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ก่อนการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ
เจาะลึกในตลาดเฉพาะกลุ่ม
คุณได้ทำการวิจัยตลาดเพื่อระบุตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณแล้ว แต่คุณสามารถเจาะลึกลงไปได้อีกนะ ลองวิเคราะห์บล็อก, โซเชียลมีเดีย, รีวิวจาก Amazon, พอดแคสต์, อินฟลูเอ็นเซอร์ และพื้นที่สำคัญอื่นๆ ในตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกดูสิ คุณสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกได้หรือไม่
การวิจัยคีย์เวิร์ดจะช่วยให้คุณเจอกับตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่การวิเคราะห์ที่เจาะลึงลงไปอีกจะสามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จริงมากขึ้น ลองดูตามแหล่งที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ รวมถึงแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณเลือก
- เว็บไซต์รีวิว
- บล็อกของคนที่สนใจด้านนั้นๆ
- โพสต์ในโซเชียลมีเดีย
- รีวิวจาก Amazon
- พอดแคสต์ในวงการ
- อินฟลูเอ็นเซอร์ในวงการ
มีปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในตลาดเฉพาะกลุ่มที่ผลิตภัณฑ์ของคุณสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ผู้บริโภใช้คุณสมบัติและเกณฑ์แบบใดมาตัดสินผลิตภัณฑ์
ติดตามแนวโน้มของผู้บริโภคในตลาดของคุณ
การติดตามพัฒนาการในตลาดเฉพาะกลุ่มที่คุณเลือกนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจของคุณต้องพูดและทำให้เหมือนกับผู้เชี่ยวชาญที่รู้ลึกรู้จริง
แหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น Meta Foresight, Think with Google และ การวิจัยผู้บริโภคของ Nielsen สามารถช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาของผู้บริโภค ความต้องการ และเทรด์ใหม่ๆ ได้
การตั้งค่า Google Alerts สำหรับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและติดตามการสนทนาในโซเชียลมีเดีย ก๋จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสได้อีกด้วย
สำรวจโอกาสในการเติบโต
การประสบความสำเร็จได้ในช่วงแรกๆ นั้นเป็นเรื่องดี แต่ด้วยความที่ตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นมันเฉพาะเจาะจง มันจึงพัฒนาไปได้เรื่อยๆ อยู่เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ธุรกิจของคุณจะต้องปรับตัวให้เข้ากับความสนใจของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นใหม่ และคุณสามารถนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สๆ ได้เมื่อมีโอกาสนั้นเข้ามา
ถ้าตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณมีการแข่งขันสูงขึ้น หรือธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จในการเติมเต็มตลาดนั้นแล้ว ให้ลองพิจารณาหันไปหากลุ่มเป้าหลายที่อยู่ใกล้เคียงกันดู ความยืดหยุ่นเช่นนี้จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณยังอยู่ในความสนใจ และรักษาความสามารถในการทำกำไรในระยะยาวให้กับธุรกิจได้
เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณ คุณต้องกลับไปเริ่มต้นที่ความต้องการและสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายในตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณมีเหมือนกันเสมอ อะไรทำให้กลุ่มของคุณแตกต่างจากตลาดในภาพใหญ่ คุณจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้อย่างไร
ถ้าธุรกิจของคุณสามารถสื่อสารในภาษาเดียวกับตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณได้นั้น คุณก็จะมีโอกาสในการสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้ซื้อได้มากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม: วิธีประเมินตลาดสำหรับไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ของคุณ
ก้าวต่อไปกับกลยุทธ์การตลาดเฉพาะกลุ่ม
เมื่อคุณเจอตลาดเฉพาะกลุ่มและจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้แล้ว ก็ถึงเวลาเปลี่ยนไอเดียธุรกิจของคุณให้กลายเป็นจริง
ไม่ว่าในแผนธุรกิจของคุณจะมีการผลิตสินค้าขึ้นมาเอง หรือร่วมมือกับโรงงาน หรือใช้การดรอปชิป คุณก็มีแหล่งข้อมูลที่จะแนะนำแนวทางให้คุณไปทีละขั้นๆ ดังนี้
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์คืออะไร? 7 ขั้นตอนในการสร้างสินค้าปี 2025
- วิธีค้นหาผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ในปี 2025
- คู่มือการจัดหาผลิตภัณฑ์เพื่อขายออนไลน์
- 11 บริษัทและเว็บไซต์บริการพิมพ์ตามสั่งที่ดีที่สุดในปี 2025
ภาพประกอบโดย Rose Wong
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตลาดเฉพาะกลุ่ม
ตลาดเฉพาะกลุ่มหมายถึงอะไร?
ตลาดเฉพาะกลุ่มคือกลุ่มตลาดที่แยกย่อยออกมาจากตลาดในภาพรวม โดยมีความต้องการ ความชอบ อัตลักษณ์ ที่เฉพาะเจาะจง จนทำให้กลุ่มนี้แตกต่างจากตลาดในภาพรวม
ตัวอย่างของตลาดเฉพาะกลุ่มมีอะไรบ้าง
- ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- คนรักสุขภาพ
- เจ้าของสัตว์เลี้ยง
- คนรักกิจกรรมกลางแจ้ง
- นักเดินทาง
- เกมเมอร์
- เจ้าของบ้าน
- คนทำงานรีโมท
- คนในพื้นที่
ความแตกต่างระหว่างตลาดแมสและตลาดเฉพาะกลุ่มคืออะไร?
ตลาดแมสมุ่งหวังที่จะเข้าถึงผู้คนให้ได้มากที่สุด ส่วนตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นมุ่งเน้นไปที่การให้บริการกลุ่มคนเฉพาะที่มีความต้องการหรือความสนใจที่ชัดเจน เช่น เชนซูเปอร์มาร์เก็ตระดับประเทศก็จะให้บริการตลาดแมส ส่วนร้านขายเนื้อในท้องถิ่นที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและขายผลิตภัณฑ์ที่มาจากท้องถิ่นก็จะให้บริการตลาดเฉพาะกลุ่ม
จะเลือกตลาดเฉพาะกลุ่มได้อย่างไร?
คุณสามารถเลือกตลาดเฉพาะกลุ่มได้โดยการหาตลาดในภาพรวมที่คุณสนใจ จากนั้นก็เจาะลึกไปยังพื้นที่เฉพาะทางภายในตลาดนั้น จนกว่าคุณจะพบตลาดเฉพาะกลุ่มที่สอดคล้องกับคุณหรือเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ ในการสร้างไอเดียเรื่องตลาดเฉพาะกลุ่ม ให้คุณตรวจสอบเทรนด์การค้นหา สร้างมายด์แม็ป หรือไล่ดูในโซเชียลมีเดีย บทความมีคำแนะนำเกี่ยวกับการกำหนดและตรวจสอบตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณ
การตลาดเฉพาะกลุ่มคืออะไร?
การตลาดเฉพาะกลุ่มช่วยให้ธุรกิจสามารถมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าเฉพาะทางที่มีความต้องการที่ไม่เหมือนใครได้ กลยุทธ์การตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นก็มีทั้งการสื่อสารที่ปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละคน และคอนเทนต์เจาะลึกที่แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม หรือความสนใจ ถ้าการตลาดเฉพาะกลุ่มประสบความสำเร็จ ประโยชน์ที่คุณจะได้ก็มีทั้งความภักดีของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและข้อได้เปรียบในการแข่งขันเหนือแบรนด์ที่คล้ายกัน การตลาดเฉพาะกลุ่มช่วยให้ธุรกิจสามารถตั้งตัวให้เป็นผู้นำในสาขาของตน ซึ่งจะเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในสายตาของผู้บริโภคได้
จะค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มที่ทำกำไรได้อย่างไร?
การค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มที่ทำกำไรได้ให้เจอนั้นต้องอาศัยการวิจัยเทรนด์ตลาด การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า และการประเมินการแข่งขัน เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Trends เครื่องมือวิจัยคีย์เวิร์ด และโซเชียลมีเดีย สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าได้ เมื่อคุณเจอตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีศักยภาพแล้ว ให้ตรวจสอบความสามารถในการทำกำไรโดยการประเมินความต้องการ การแข่งขัน และที่สำคัญคือศักยภาพในการเติบโต